ประเภทของเมล็ดกาแฟ และเมนูกาแฟ จากร้านกาแฟ หรือ ตู้กาแฟ

Last updated: 23 ส.ค. 2565  |  714 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ

ประเภทของเมล็ดกาแฟ และเมนูกาแฟ จากร้านกาแฟ หรือ ตู้กาแฟ

ทำความรู้จักเมล็ดกาแฟและเมนูก่อนเป็นเจ้าของ แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ

         เมื่อเดินผ่านร้านกาแฟในหลายแห่ง จะสังเกตุเห็นได้ว่าแต่ละร้านล้วนแต่ใช้ “กาแฟอาราบิก้า” หรือ “เมล็ดกาแฟอาราบิก้า” เคยสงสัยไหมว่าทำไม ร้านกาแฟ กาแฟหยอดเหรียญ และ ตู้กาแฟ ถึงต้องใช้เมล็ดอาราบิก้า จริงๆ แล้วมีเมล็ดกาแฟมีมากมายหลายประเภท บ่อยครั้งเมื่อมีการจัดหมวดหมู่กาแฟ ส่วนใหญ่เราก็มักจะนึกถึงการแบ่งตามรูปแบบการคั่ว แหล่งที่มา แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้ ล้วนมีประโยชน์สำหรับคอกาแฟ เพราะเมื่อจะดื่มกาแฟสักแก้วลูกค้ามักคาดหวังสิ่งได้รับจากการดื่ม เรามาดูกันดีกว่าว่ากาแฟแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง และอะไรที่ทำให้กาแฟแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไร

 

เมล็ดกาแฟมีด้วย 4 ประเภท

  1. กาแฟสายพันธ์อาราบิก้า (Arabica) เป็นเมล็ดกาแฟที่พบมากที่สุด เพราะมีการผลิตขึ้นทั่วโลก 60-70% โดยอาราบิก้าเมล็ดของกาแฟจะมีรสหวานกว่า ให้ความนุ่มนวลละเอียดอ่อนกว่า และตัวกาแฟเองก็มีแนวโน้มที่จะเป็นกรดน้อยกว่า ซึ่งเมล็ดอาราบิก้าจะปลูกในพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะในที่ที่มีฝนตกชุก โดยบราซิลเป็นผู้ส่งออกเมล็ดอาราบิก้ารายใหญ่ที่สุดของโลก

  2. กาแฟสายพันธ์โรบัสต้า (Coffee caniphora) เมล็ดกาแฟโรบัสต้า จะให้รสชาติที่เข้มข้นและมีคาเฟอีนสูงมาก โดยมากนิยมปลูกในระดับความสูงและสภาพอากาศเท่าใดก็ได้ โรบัสต้า เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟแบบเข้มข้น ซึ่งโดยมากโรบัสต้าถูกนำไปใช้การทำกาแฟสำเร็จรูป หรือในบางครั้งอาจต้องใช้ส่วนผสมในการคั่ว ในอัตราอาราบิก้า 3 ส่วนต่อโรบัสต้า 1 ส่วน อย่างไรก็ตามเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุด จะต้องมีรสช็อกโกแลตและเหล้ารัมอยู่ แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างที่จะหายากนั่นเอง

  3. กาแฟสายพันธ์ไลเบอริก้า Liberica (Coffee liberica) เป็นเมล็ดกาแฟที่หายาก เพราะชอบอากาศที่เฉพาะเจาะจงมาก จึงให้การเพาะปลูกได้น้อย แต่กลิ่นของเมล็ดกาแฟเปรียบเสมือนกลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ บ้างก็ว่าคล้ายกับ "กลิ่นควัน"

  4. กาแฟสายพันธุ์เอ็กเซลซ่า Excelsa (Coffee liberica var. dewevrei) เป็นเมล็ดกาแฟในตระกูล Liberica ในทางเทคนิค แต่สายพันธุ์ของมันมีความแตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ โดย Excelsa มีการปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก และมีการผลิตในปริมาณไม่สูงมากนัก ซึ่งเมล็ดกาแฟ Excelsa จะมีรสเปรี้ยวของรสผลไม้ โดยคุณลักษณะของกาแฟคั่วมีทั้งแบบอ่อนและเข้ม
 

เมล็ดกาแฟมีความสำคัญอย่างไร

         หากคุณคิดจะดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ และตู้กาแฟ และต้องการให้ลูกค้าบอกต่อแบบปากต่อปากในเชิงบวกถึงรสชาติของกาแฟที่หอมกรุ่น สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญ คือ การเลือกใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพ เพราะการดื่มกาแฟแต่ละบุคคลมักเป็นเรื่องของการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย การใช้เมล็ดกาแฟที่ดีจะเพิ่มอรรถรสด้านของกลิ่นหอมควบคู่กับรสชาติ ข้อดีการเลือกเมล็ดกาแฟที่ดี มีดังนี้ 

  • การเลือกกาแฟคุณภาพสูงหรือธุรกิจตู้กาแฟหยอดเหรียญ และตู้กาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
  • สร้างผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและเป็นที่จดจำสำหรับลูกค้าเมื่อได้ลิ้มลอง เมื่อธุรกิจตู้กาแฟหยอดเหรียญ และตู้กาแฟ เลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง จะทำให้กาแฟมีส่วนผสมที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง
  • ลูกค้าใส่ใจคุณภาพเมล็ดกาแฟ คุณสมบัติของเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง โดยเฉพาะลูกค้าที่พิถีพิถันการดื่มกาแฟ ดังนั้นควรเลือกผู้ผลิตกาแฟคุณภาพสูง หรือกาแฟหยอดเหรียญ และตู้กาแฟ ที่ใช้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูง 


ไอเดียการรังสรรค์ 10 เมนูจาก ‘เมล็ดกาแฟ’

         โดยจะเริ่มจากเมนูยอดฮิตที่ กาแฟหยอดเหรียญ ตู้กาแฟ จะต้องมีเป็นพื้นฐานให้บริการกับลูกค้าเมื่อเข้ามาใช้บริการกดตู้หยอดเหรียญ เนื่องจากเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายที่ต้องมี 

  1. เอสเพรสโซ่ (Espresso) เป็นที่รู้จักกันในนามกาแฟดำ เป็นเครื่องดื่มพื้นฐานของอื่นๆ โดยเอสเปรสโซ คือ กาแฟหนึ่งช็อต ไม่มีการเติมน้ำร้อนเพิ่ม ทำให้ได้เครื่องดื่มที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอม โดยมีวิธีทำคือการบังคับให้น้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟที่บดละเอียด

  2. Latte (ลาเต้) คือ กาแฟลาเต้ เป็นกาแฟใส่นมที่ไล่ระดับชั้นฟองนม จริงๆ แล้วเป็นเอสเปรสโซ หนึ่งหรือสองช็อต แต่เติมนมในปริมาณมาก และปิดท้ายด้วยการใส่ฟองนม

  3. Mocha (มอคค่า) ก็คือ เอสเปรสโซหนึ่งช็อตผสมกับผงช็อกโกแลตหรือน้ำเชื่อม ใส่นมหรือครีม ซึ่งความแตกต่างของลาเต้ ก็คือมักจะเป็นเอสเปรสโซ 1/3 และนมอุ่น 2/3 แต่จะเพิ่มรสช็อกโกแลตและอาจเป็นนมหรือดาร์กช็อกโกแลต สำหรับมอคค่า

  4. Cappuccino (คาปูชิโน่) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ กาแฟเอสเปรสโซ นมสด และฟองนม ซึ่งจะมีรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟ

  5. Macchiato (มัคคิอาโต้) เสิร์ฟในแก้วขนาดเล็กที่ประกอบด้วยเอสเปรสโซช็อตหนึ่งช็อต จากนั้นราดด้วยฟองนมหรือนุ่มอุ่นเพียงเล็กน้อย ทำให้ยังคงรสชาติเอสเปรสโซโดดเด่น มัคคิอาโตเหมาะสำหรับผู้ที่คิดว่าเอสเปรสโซมีรสชาติที่เข้มเกินไป และคาปูชิโนก็อ่อนเกินไป

         สำหรับอีก 5 เมนูที่ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูร้านกาแฟมีให้บริการกับลูกค้า แต่กาแฟหยอดเหรียญ ตู้กาแฟ จริงๆ แล้วสามารถพัฒนาเพื่อให้บริการตามตู้กดที่หลากหลายและขณะเดียวกันก็เป็นการยกระดับการให้บริการที่ตอบโจทย์คอกาแฟไปอีกระดับหนึ่งได้

 

  1. Doppio (ดอปปิโอ) หมายถึง Double เอสเปรสโซ 2 ช็อต นั่นเอง เอสเปรสโซมักจะเป็นเบส หรือสารตั้งต้นให้กับกาแฟชนิดอื่น ๆเมนูนี้เอสเปรสโซสองช็อตที่ไม่เติมน้ำร้อนหรือนม เป็นกาแฟที่สกัดจากเครื่องเอสเปรสโซแรงดันสูง ทำให้ได้กาแฟรสชาติเข้มข้น โดย Doppio ในภาษาอิตาลี หมายถึง 'สองเท่า'

  2. RISTRETTO (ริสเทรตโต้) แปลว่า 'จำกัด' ในภาษาอิตาลี เป็นเมนูที่มีรสชาติเข้มข้นมาก จะมีหน้าตาคล้ายกับเอสเพรสโซ่ แต่มีปริมาณน้อยกว่า หรือพูดง่ายๆ เป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ช็อตหนึ่งช็อต แต่สกัดด้วยน้ำครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ได้ช็อตที่อร่อยและเข้มข้น โดยทั้ง 2 เมนูมีความแต่ต่างกันที่ อัตราส่วนของผงกาแฟต่อน้ำกาแฟที่ถูกสกัดออกมา โดยที่ Espresso จะมีอัตราส่วนสกัดเป็น 1:2 แต่สำหรับ Ristretto นั้นจะมีอัตราส่วนเป็น 1:1.

  3. Long Black (ลองแบล็ก) เป็นเมนูที่มีต้นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นเมนูกาแฟดำผสมน้ำ ที่นำเอสเพรสโซช็อต (Espresso Shot) ใส่ลงในแก้วแล้วเทน้ำร้อนตามลงไปเพื่อลดความเข้มขมของกาแฟลง และเปลี่ยนเป็นรสชาติความเข้มที่ดื่มได้ง่ายขึ้น

  4. Mezzo (Piccolo) เมซโซ่ (พิคโคโล) หรือที่รู้จักในชื่อ พิกโคโล่ คือเอสเปรสโซช็อตเดียวในแก้วลาเต้ขนาดเล็ก จากนั้นเติมนมนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นเมนูที่ต้องนั่งดื่มในร้านกาแฟที่มีบาริสต้าหรือผู้เชี่ยวชาญในการชงกาแฟ

  5. Flat White คือ Espresso หรือ Ristretto (กาแฟช็อตที่มีความเข้มข้นมากกว่า Espresso) ที่ใส่นมร้อน (Steamed Milk) ลงไปโดยที่ไม่มีโฟมนมมากเท่า Latte มีเพียงเล็กน้อยเรียบ ๆ บาง ๆ ที่เป็นที่มาของชื่อเมนู “Flat White” นั่นเอง ซึ่งเมนูนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

         ‘เมล็ดกาแฟ’ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ การใช้เมล็ดกาแฟที่ดีจะช่วยดูดดึงคอกาแฟได้เป็นอย่างดี และผสานกับการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในคีย์ซัคเซสของธุรกิจกาแฟ ปัจจุบันแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ และตู้กาแฟได้คัดสรรเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพมาให้บริการลูกค้า และสร้างสรรค์เมนูออกมามากมายไม่ต่างกับร้านกาแฟ ที่สำคัญรสชาติมีมาตรฐานเดิมกันทุกแก้ว รวมทั้งยังการทำตลาดทำให้ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ อีกทั้งยังสร้างรายได้ที่ดีให้กับผู้ลงทุนด้วย

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.masterfranchise24hrscoffee.com/
โทร: 062-429-4956, 080-536-9423
Line ID: @24hrscoffee

บทความนี้เขียนโดย : https://www.masterfranchise24hrscoffee.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้